หูฟังไร้สายสำหรับการวิ่ง เลือกยังไงให้ไม่เป็นภาระชีวิต?

โอเค นักวิ่งทั้งหลาย! คุณเคยเจอเหตุการณ์พังๆ แบบนี้ไหม?

  • กำลังวิ่งมันส์ๆ อยู่ดีๆ ตุ้บ! หูฟังร่วง ไปกลิ้งเล่นบนถนน
  • วิ่งไป 5 นาที “ติ๊ดๆๆ แบตเตอรี่ต่ำ” แล้วก็เงียบกริบ
  • วิ่งท่ามกลางเหงื่อท่วมตัว หูฟังพัง! เหมือนมันร้องไห้ว่า “ช่วยด้วย กูไม่ไหวแล้ว!”

ถ้าคุณเคยเจอสิ่งเหล่านี้ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ คุณโดนหูฟังห่วยๆ หักหลังเรียบร้อยแล้ว!

ถ้าไม่อยากเสียเงินไปฟรีๆ มาดูกันว่า หูฟังสำหรับวิ่งที่ดี มันต้องเป็นยังไง!

หูฟังไร้สายสำหรับการวิ่ง

หูฟังไร้สายสำหรับการวิ่ง เสียงต้องดี ไม่ใช่เสียงหม้อแปลง

ลองจินตนาการดู… คุณกำลังวิ่งรับลมเย็นๆ เปิดเพลงโปรด เสียงควรจะ แน่น! ชัด! มีพลัง! แต่แทนที่จะได้เสียงเบสแน่นๆ คุณกลับได้ยิน “จี๊ดดด…ซ่าาา…” เหมือนวิ่งอยู่กลางพายุแม่เหล็กไฟฟ้า

แถมบางอันเสียงแหลมจนรู้สึกว่า “นี่กูเปิดเพลง EDM หรือฟังคนขูดกระจก?”

หูฟังที่ดีต้องให้เสียงคมชัด เบสแน่น แต่ไม่ใช่แน่นจน รู้สึกเหมือนโดนหมัดฮุกใส่แก้วหู


ใส่แล้วต้องไม่หลุด! วิ่งไปไม่ต้องคอยเก็บหูฟัง

เคยไหม? วิ่งไปได้แค่ 100 เมตร หูฟังเริ่มขยับตัวเองออกจากหูเหมือนมันมีชีวิตจิตใจ แล้วสุดท้ายก็ร่วงลงพื้น!

บางคนโชคร้ายกว่านั้น… หูฟังเด้งออกไปกลางถนน! ต้องหยุดวิ่งไปรับหูฟังท่ามกลางสายตาผู้คน เหมือนหมาที่วิ่งเก็บลูกบอล

หูฟังที่ดีต้องล็อกกระชับ ไม่ใช่แค่ใส่แล้วหลุดง่ายเหมือนหัวใจเวลาเจอของลดราคา!


แบตต้องอึด ไม่งั้นชีวิตคุณจะเศร้า

คุณเคยมั่นใจว่าแบตเต็ม แต่พอออกไปวิ่งได้แค่ 10 นาที “ติ๊ดๆๆ แบตเตอรี่ต่ำ” แล้วจากนั้นคือความเงียบสงัดเหมือนอยู่ในหนังสยองขวัญ

สุดท้ายต้องวิ่งไปฟังเสียงหายใจตัวเอง พร้อมตั้งคำถามว่า “ชีวิตฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง?”

หูฟังที่ดีต้องแบตอึด ถ้าได้แบบ 6-10 ชั่วโมง ถือว่าผ่าน!


กันเหงื่อได้ ไม่งั้นพังไวเหมือนใจคนบางคน

เหงื่อของคุณไม่ใช่น้ำมนต์นะครับ! มันไม่ช่วยให้หูฟังแกร่งขึ้น มีแต่จะทำให้ วงจรไฟฟ้าลัดวงจร!

ลองนึกภาพ… คุณวิ่งอยู่ดีๆ ฝนตกเบาๆ พอเข้ามาดูหูฟังอีกที “อ้าว? พี่แกไปเกิดใหม่แล้วเหรอ!?”

ถ้าไม่อยากเสียเงินรัวๆ เลือกหูฟังที่กันน้ำกันเหงื่อได้ (อย่างน้อยต้องเป็น IPX4 ขึ้นไป)


การเชื่อมต่อต้องเสถียร วิ่งไปเพลงต้องไม่สะดุด!

บางคนใส่หูฟังแล้วเชื่อมต่อ Bluetooth พอวิ่งไปได้ 200 เมตร เพลงเริ่มสะดุดเหมือนจับสัญญาณจากจักรวาล

“วิ่งไป… (เงียบ) …baby I’m sorry not sorry… (เงียบอีก)…”

เพลงขาดช่วงแบบนี้ อย่าว่าแต่วิ่งเลย ฟังไปก็หงุดหงิด!

หูฟังที่ดีต้องเชื่อมต่อเสถียร ไม่ใช่วิ่งแล้วเหมือนสัญญาณโดนผีหลอก


ตัวอย่างหูฟังห่วยๆ ที่คุณควรหลีกเลี่ยง

  • แบบที่โฆษณาว่าเบสหนัก แต่ฟังจริงๆ เหมือนเปิดวิทยุ AM
  • แบบที่ชาร์จแบต 3 ชั่วโมง ใช้งานได้ 30 นาที
  • แบบที่หลุดจากหูได้ง่าย จนคุณต้องใส่กาวตราช้างล็อกไว้
  • แบบที่เจอเหงื่อนิดเดียวก็ดับเหมือนโดนน็อกเอาต์

สรุป! หูฟังไร้สายสำหรับการวิ่งที่ดีต้องเป็นแบบไหน?

✅ เสียงดี เบสแน่น ฟังแล้วมีแรงฮึด
✅ ใส่แล้วไม่หลุด วิ่งไปไม่ต้องคอยเก็บ
✅ แบตอึด ไม่ต้องชาร์จทุก 5 นาที
✅ กันเหงื่อ กันน้ำ ไม่พังง่าย
✅ เชื่อมต่อเสถียร วิ่งไปไม่มีสะดุด

เลือกดี = วิ่งมันส์! เลือกพลาด = หงุดหงิดจนเลิกวิ่ง! ตัดสินใจดีๆ นะครับ!